All New Toyota RAV4 ใหม่ เจเนอเรชันที่ 6 เปิดตัวแล้ว!

All New Toyota RAV4 ใหม่ เจเนอเรชันที่ 6 จัดเต็มทั้งดีไซน์ เทคโนโลยี และขุมพลังไฟฟ้า พร้อมเปิดตัวรุ่นพิเศษ GR Sport และ Woodland ที่ทำให้ SUV คันนี้ไม่ธรรมดาอีกต่อไป!

ทั้งนี้ Toyota ยังยึดแนวทางเดิมแบบ Camry คือ รีดีไซน์หนัก แต่ไม่ถึงกับโมใหม่หมด โดย RAV4 เจนฯ ที่ 6 ยังใช้พื้นฐาน TNGA-K เดิม แต่มีการปรับปรุงทั้งดีไซน์ ภายนอก ภายใน และระบบช่วงล่างอย่างเห็นได้ชัด

มีให้เลือก 3 สไตล์หลัก คือ

Core (LE, XLE, Limited)
Sport (SE, XSE, GR Sport)
Rugged (นำโดยรุ่นใหม่ Woodland)

ดีไซน์ภายนอก

ไฟหน้า LED ดีไซน์เฉียบกว่าเดิม
กระจังหน้าแบบใหม่ สีเดียวกับตัวรถ
ล้ออัลลอยขนาด 17, 18 หรือ 20 นิ้ว แล้วแต่รุ่น
ไฟท้าย LED เต็มความกว้าง พร้อมฝาท้ายทรงเหลี่ยม + สปอยเลอร์ใหญ่ขึ้น
รุ่น GR Sport มีสปอยเลอร์ทรงสปอร์ตพิเศษ และกระจังหน้าดีไซน์ดุดัน
รุ่น Woodland เพิ่มความลุยด้วยยาง All-Terrain, กันชนหน้าแบบแยก, ไฟเสริม และยกสูงขึ้นอีก 13 มม.

ภายในห้องโดยสาร

หน้าจอเรือนไมล์ดิจิทัล 12.3 นิ้ว (มาตรฐาน)
จออินโฟเทนเมนต์ 10.5 หรือ 12.9 นิ้ว (แล้วแต่รุ่น)
รองรับ Head-Up Display ในรุ่นสูง
ระบบปฏิบัติการใหม่ Toyota Arene พร้อม Safety Sense 4.0
คุมแอร์แบบดิจิทัล อยู่ล่างจอ (ไม่มีปุ่มจริงแล้ว)
คอนโซลกลางใหม่ มีช่องเก็บของเยอะขึ้น + คันเกียร์ไฟฟ้าแบบ toggle
เครื่องเสียง JBL 9 ลำโพง (อัปเกรดจาก 6 ลำโพงมาตรฐาน)

วัสดุห้องโดยสารเลือกได้หลายแบบ เช่น

ผ้า
SofTex
Ultrasuede เจาะรู
รุ่น GR Sport มีพวงมาลัย GR, เบาะแต่งพิเศษ และแป้นคันเร่งอลูมิเนียม
รุ่น Woodland มีพรมกันเปื้อน และเบาะลาย “Mineral”

สมรรถนะ

Hybrid (HEV)

เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้า
กำลังรวม 226 แรงม้า (FWD) / 236 แรงม้า (AWD)
แรงขึ้น 17 แรงม้าจากรุ่นเดิม

Plug-in Hybrid (PHEV)

กำลังรวม 320 แรงม้า (AWD มาตรฐาน)
วิ่งโหมดไฟฟ้าได้ไกลขึ้น: 50 ไมล์ (80 กม.)
รุ่น XSE และ Woodland รองรับ DC Fast Charging (จาก 10-80% ใน 30 นาที)

พื้นฐานเดิมแต่ปรับโครงสร้างใหม่ให้แข็งแรงขึ้น ลดเสียงรบกวน และเพิ่มความนุ่มนวล

ลากของได้มากขึ้น

รุ่น FWD ลากได้ 1,750 ปอนด์ (794 กก.)
รุ่น AWD ลากได้สูงสุด 3,500 ปอนด์ (1,588 กก.)

ตัวเลือกสี

Meteor Shower
Everest
Storm Cloud
สีพิเศษ Urban Rock (เฉพาะ Woodland)
สี Supersonic Red หลังคาดำ (เฉพาะ GR Sport)

ราคา & วันวางจำหน่าย

พร้อมขายในสหรัฐฯ ช่วงปลายปี 2025
ราคาประเมิน (ยังไม่เป็นทางการ): รุ่นเริ่มต้น Core อยู่ที่ 33,000 – 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 1,100,000 – 1,200,000 บาท) รุ่น GR Sport อาจแตะ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 1,700,000 บาท)

สุดท้ายนี้ ถ้าหากทางทีมงานทราบข้อมูลข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งนะครับ