Honda เผยโฉมเทคโนโลยีใหม่! ขุมพลังไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ พร้อมแพลตฟอร์มรถขนาดกลางสุดล้ำ

Honda เปิดเผยรายละเอียดแรกของระบบไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ผสานเครื่องยนต์ Atkinson cycle แบบฉีดตรง ขนาด 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร เข้ากับชุดขับเคลื่อนหน้าและระบบระบายความร้อนแบบใหม่ที่ออกแบบมาอย่างลงตัว

ประหยัดน้ำมันขึ้นกว่าเดิม 10%

เมื่อจับคู่กับแพลตฟอร์มรถขนาดกลางรุ่นใหม่ที่กำลังพัฒนา Honda คาดว่าจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่าเดิมถึง 10% โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่ Honda บอกว่า จะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงในรอบเครื่องยนต์ที่สมดุลกับแรงบิดได้มากขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน

ระบบขับเคลื่อนเล็กลง แต่ทรงพลังขึ้น

ระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่จะมีขนาดเล็กลงแต่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมทั้งใช้ชิ้นส่วนร่วมกันมากขึ้นระหว่างระบบสำหรับรถเล็กและรถขนาดกลาง ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ “อย่างมีนัยสำคัญ”

โหมดขับเคลื่อนใหม่ เร็ว แรง ประหยัด

โหมดการทำงานของระบบไฮบริดได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ได้ทั้ง สมรรถนะและความประหยัด โดยทุกรุ่นในอนาคตจะมาพร้อมระบบ S+ Shift ใหม่ ที่ควบคุมรอบเครื่องยนต์อย่างแม่นยำ ช่วยให้การขับขี่ตอบสนองได้ดีขึ้น พร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่ปรับแต่งผ่านระบบเสียงภายในรถ สร้างประสบการณ์ “เป็นหนึ่งเดียว” ระหว่างคนขับและรถ

S+ Shift จะเปิดตัวครั้งแรกใน Honda Prelude รุ่นใหม่ปีหน้า โดยมาพร้อมการเปลี่ยนเกียร์แบบ “สมจริง” และการตอบสนองที่ลื่นไหล

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า (Electric AWD)

Honda ยังเตรียมเปิดตัวระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่สามารถใช้ร่วมกับ EV ได้ ลดความซับซ้อนและต้นทุนการผลิต พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ในสภาพถนนที่ท้าทาย

แพลตฟอร์มเบาที่สุดในคลาส

แพลตฟอร์มขนาดกลางรุ่นใหม่ของ Honda จะลดน้ำหนักตัวรถลงถึง 10% หรือประมาณ 90 กิโลกรัม ด้วยโครงสร้างที่เรียบง่ายขึ้นและการจัดการความแข็งแกร่งของตัวถังที่ช่วยกระจายโหลดระหว่างยางในขณะเข้าโค้ง

แพลตฟอร์มนี้ยังมีความยืดหยุ่นสูง ใช้ร่วมกันได้ถึง 60% ในรถหลายรุ่น ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลดต้นทุนไฮบริดถึง 50%

Honda วางแผนลดต้นทุนการผลิตรถไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ลงถึง 50% ภายในปี 2027 เมื่อเทียบกับรุ่นที่เปิดตัวในปี 2018 พร้อมตั้งเป้าจำหน่ายรถไฮบริดให้ได้ 1.3 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2030

แต่ในระยะยาว Honda ยังคงยืนยันเป้าหมาย ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2040 โดยไฮบริดจะเป็นตัวหลักในช่วงนี้ ส่วน EV จะเป็นอนาคตระยะยาว

สุดท้ายนี้ ถ้าหากทางทีมงานทราบข้อมูลข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติม จะนำมารายงานให้เพื่อน ๆ ทราบอีกครั้งนะครับ